และลุ่มน้ำสายหลักทั้ง 3 สาย ยังสามารถรองรับน้ำได้ นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาสได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ปาปึก” ในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอตากใบซึ่งมีพื้นที่ติดทะเล มีฝนตกตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 04.00 น. โดยมีฝนตกโปรยปรายไม่หนักมาก เนื่องจากนราธิวาสไม่ได้อยู่ในแนวศูนย์กลางของพายุ แต่บริเวณทะเลมีคลื่นสูง โดยได้ลงพื้นที่ไปพร้อมกับ นายรุสลัน อารง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกเคียน พบว่ามีคลื่นสูงประมาณ 3 - 4 เมตร ทำให้เรือประมงพื้นบ้านไม่สามารถออกทำการประมงได้ ทั้งนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานราธิวาส ได้ออกประกาศห้ามเรือเล็กทำการประมง รวมทั้งได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านทอนนาอีม อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่มีคลื่นลมแรงมาก ประกอบกับมีฝนตกตลอดเวลาแต่ไม่หนักมาก ไม่มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ และท่วมบ้านเรือนประชาชน ด้านกระแสลมมีกำลังแรงมากกว่าปกติ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน ไม่มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากลมพายุ ในด้านระบบสาธารณูปโภคยังไม่ได้รับความเสียหาย สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำสายหลักของนราธิวาส ยังสามารถรองรับน้ำได้เนื่องจากฝนได้หยุดตกไปตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำสายหลัก ที่ลุ่มน้ำบางนรา ลุ่มน้ำสายบุรี และลุ่มน้ำสุไหงโก-ลก อยู่ในระดับต่ำสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก นอกจากนี้ชลประทานได้เตรียมเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเลแล้ว และในเขตตัวเมืองจะมีการระบายน้ำจากคลองศูนย์ราชการ ไปยังคลองยะกังเพื่อระบายยังแม่น้ำบางนรา ทั้งนี้ จากการติดตามข้อมูลกับผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงคืนนี้ ท้องฟ้ามืดครึ้ม โดยกลุ่มเมฆฝนจะเคลื่อนตัวไปที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค. 62) ในด้านการให้ความช่วยเหลือประชาชน ได้เตรียมความพร้อมโดยประสานงานกับท้องถิ่น อำเภอ เพื่อให้นายอำเภอเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ โดยจากการลงพื้นที่ไปที่ อบต.โคกเคียน มีการเตรียมความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ รวมทั้งจุดรองรับการอพยพที่โรงเรียนบ้านทอน ที่ได้เตรียมสถานที่เป็นอาคารพร้อมห้องน้ำไว้รองรับผู้อพยพจำนวน 2 อาคาร สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 800 คน และถ้ามีผู้อพยพเพิ่มเติม ก็จะใช้อาคาร อีก 1 หลัง ที่สามารถรองรับได้หลายร้อยคน ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาสได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 ส่งรถบรรทุกสูงเพื่อใช้อพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำมายังจุดรองรับการอพยพ มีเรือท้องแบนสนับสนุนจำนวน 10 ลำ และยังมีหน่วยกำลังทหารในพื้นที่ได้ประสานเพื่อให้การสนับสนุนกำลังพลในการช่วยเหลือประชาชนอีกด้วย Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.นราธิวาส ปภ.จังหวัดนราธิวาส เฝ้าระวังสถานการณ์พายุโซนร้อน “ปาปึก” พร้อมเผยยังไม่น้ำท่วมในพื้นที่ และลุ่มน้ำสายหลักทั้ง 3 สาย ยังสามารถรองรับน้ำได้ นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาสได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ปาปึก” ในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอตากใบซึ่งมีพื้นที่ติดทะเล มีฝนตกตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 04.00 น. โดยมีฝนตกโปรยปรายไม่หนักมาก เนื่องจากนราธิวาสไม่ได้อยู่ในแนวศูนย์กลางของพายุ แต่บริเวณทะเลมีคลื่นสูง โดยได้ลงพื้นที่ไปพร้อมกับ นายรุสลัน อารง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกเคียน พบว่ามีคลื่นสูงประมาณ 3 - 4 เมตร ทำให้เรือประมงพื้นบ้านไม่สามารถออกทำการประมงได้ ทั้งนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานราธิวาส ได้ออกประกาศห้ามเรือเล็กทำการประมง รวมทั้งได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านทอนนาอีม อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่มีคลื่นลมแรงมาก ประกอบกับมีฝนตกตลอดเวลาแต่ไม่หนักมาก ไม่มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ และท่วมบ้านเรือนประชาชน ด้านกระแสลมมีกำลังแรงมากกว่าปกติ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน ไม่มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากลมพายุ ในด้านระบบสาธารณูปโภคยังไม่ได้รับความเสียหาย สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำสายหลักของนราธิวาส ยังสามารถรองรับน้ำได้เนื่องจากฝนได้หยุดตกไปตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำสายหลัก ที่ลุ่มน้ำบางนรา ลุ่มน้ำสายบุรี และลุ่มน้ำสุไหงโก-ลก อยู่ในระดับต่ำสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก นอกจากนี้ชลประทานได้เตรียมเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเลแล้ว และในเขตตัวเมืองจะมีการระบายน้ำจากคลองศูนย์ราชการ ไปยังคลองยะกังเพื่อระบายยังแม่น้ำบางนรา ทั้งนี้ จากการติดตามข้อมูลกับผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงคืนนี้ ท้องฟ้ามืดครึ้ม โดยกลุ่มเมฆฝนจะเคลื่อนตัวไปที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค. 62) ในด้านการให้ความช่วยเหลือประชาชน ได้เตรียมความพร้อมโดยประสานงานกับท้องถิ่น อำเภอ เพื่อให้นายอำเภอเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ โดยจากการลงพื้นที่ไปที่ อบต.โคกเคียน มีการเตรียมความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ รวมทั้งจุดรองรับการอพยพที่โรงเรียนบ้านทอน ที่ได้เตรียมสถานที่เป็นอาคารพร้อมห้องน้ำไว้รองรับผู้อพยพจำนวน 2 อาคาร สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 800 คน และถ้ามีผู้อพยพเพิ่มเติม ก็จะใช้อาคาร อีก 1 หลัง ที่สามารถรองรับได้หลายร้อยคน ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาสได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 ส่งรถบรรทุกสูงเพื่อใช้อพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำมายังจุดรองรับการอพยพ มีเรือท้องแบนสนับสนุนจำนวน 10 ลำ และยังมีหน่วยกำลังทหารในพื้นที่ได้ประสานเพื่อให้การสนับสนุนกำลังพลในการช่วยเหลือประชาชนอีกด้วย Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.นราธิวาส