เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ โดยมี พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส สงขลา, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและร่วมประชุม โดยในที่ประชุม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ และแผนงานโครงการที่สำคัญในปี 2562, กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ บรรยายสรุปการติดตามคดีสำคัญ และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ บรรยายแผนงานโครงการที่สำคัญในปี 2562 พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กล่าวภายหลังการประชุมว่า เป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกที่เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นทางการ เพื่อมอบนโยบายให้แก่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยสานต่อนโยบายที่อดีตผู้บัญชาการทหารบกได้วางไว้ สำหรับประเด็นหลักๆคือด้านกำลังพล ได้เน้นย้ำให้มีความเป็นเอกภาพในการบังคับบัญชา ร่วมมือร่วมใจกันทำงานอย่างจริงจัง ไม่แย่งหน้าที่ และต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ชายแดนใต้มีสถานการณ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเน้นย้ำเรื่องการป้องกันเชิงรุกเพื่อจำกัดความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งพยายามยกประเด็นความอ่อนไหวขึ้นมาให้เป็นประเด็นในสังคม นอกจากนี้ยังได้มีการหารือกับผู้นำศาสนาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจากการพูดคุยผู้นำศาสนา ทุกคนก็เห็นด้วยกับการทำงานและพร้อมที่จะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องยาเสพติด ที่สอดคล้องกับนโยบายที่ได้มอบให้กับหน่วยงานต่างๆได้กำกับ ดูแลเพราะยาเสพติดถือเป็นภัยคุกคามยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น และยังได้มีการเน้นย้ำให้กำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ห้ามสร้างเงื่อนไขเด็ดขาด ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาจนถึงผู้ใต้บังคับบัญชา กำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่นี้จะต้องเป็นคนดี มีขีดความสามารถ ไม่สร้างเงื่อนไข หากมีการสร้างเงื่อนไขจะต้องถูกพิจารณาและออกจากพื้นที่ ทั้งนี้เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติงานมีความตั้งใจจริงในการทำงาน ด้านปัญหาภัยแทรกซ้อนจะต้องมีการแยกแยะว่าเกิดจากอะไร เช่นปัญหายาเสพติดหรืออาชญากรรมปกติ เพราะในพื้นที่ทั่วประเทศมีอาชญากรรมเกิดขึ้นทุกแห่ง ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจก็ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนปัญหาเรื่องการทำร้ายเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ต้องแยกแยะออกมา ซึ่งในปัจจุบันนี้มีสถิติลดลงอย่างมาก ในส่วนด้านการพัฒนาพื้นที่ ในปัจจุบันพื้นที่สัญลักษณ์คือ 8 เมืองหลักเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่จะต้องช่วยกันกำกับดูแล พี่น้องประชาชนจะต้องได้ใช้ชีวิตอย่างเสรีอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข โดยจะมี การดูแลในส่วนของกล้อง CCTV และบูรณาการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพราะถ้าความเจริญก้าวเข้ามาเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ในพื้นที่ก็จะดีขึ้น และถ้าเรารักษามาตรฐานและได้รับความร่วมมือจากผู้นำศาสนารวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อมิตรประเทศ เข้มงวดเรื่องการผ่านเข้าออกตามแนวชายแดน จะส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้น สำหรับประเด็นการพูดคุยสันติสุขนั้น รัฐบาลไทยและมาเลเซียได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเรื่องปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเทศมาเลเซียไม่สนับสนุนและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความรุนแรง ยืนยันว่าจะต้องมีการพูดคุยเพราะมีความละเอียดอ่อน แต่เชื่อว่าการพูดคุยเพื่อสันติสุขในระดับผู้บริหารประเทศทั้งสองฝ่ายมีท่าทีที่ให้ความร่วมมือเต็มที่ เชื่อมั่นว่าในไม่ช้าทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้น สำหรับทีมงานพูดคุยเพื่อสันติสุข จะมีการแถลงในส่วนของนโยบายอย่างกระจ่างมากขึ้นในเร็วๆนี้ Cr.ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า